ช่วงวันหยุดยาวหรือช่วงเทศกาลถือได้ว่าเป็นช่วงรวมญาติเลยทีเดียว และการเจอญาติแต่ละครั้งบางทีก็เจอกับคำถามสุดปวดตับ จะให้ตอบก็รู้สึกกระอักกระอ่วน แต่ถ้าไม่ตอบเดี๋ยวจะกลายเป็นคนไม่มีมารยาท เป็นเด็กไม่ดีในสายตาญาติๆ แต่ไม่ต้องกังวลไปวันนี้เราได้รวบรวมคำถามสุดเด็ด ที่ไม่ว่าเจอหน้าญาติกี่ครั้งก็ถามแต่คำถามนี้ ถ้าไม่รู้จะตอบอะไร วันนี้เรามีแนวทางการตอบมาบอกคุณ

ก็เข้าใจนะ ว่าญาติเป็นห่วงเป็นใย แต่บางคำถามก็ทำให้วางตัวไม่ถูก พอได้ยินแล้วแล้วอยากจะทุบโต๊ะแล้วเดินหนีไป แต่ความเป็นจริงก็ทำได้แค่นั่งนิ่งๆ ยิ้มนิดหน่อยแล้วก็ตอบคุณลุงคุณป้าไปแบบขอไปที หลังจากนั้นก็มานั่งฟังคุณลุงคุณป้าเล่าเรื่องลูกตัวเองวนไป แต่วันนี้ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วยคำตอบสุดแหวกที่ท่านคงนึกไม่ถึงแน่ๆ

“อ้วนขึ้นหรือเปล่า” คำถามนี้เราเชื่อว่าคงไม่ได้ถูกจากแค่ญาติเท่านั้น เพราะคำถามนี้เป็นคำถามยอดฮิตที่มักถูกใช้ถามคนที่ไม่ได้เจอกันมานาน ก็เข้าใจนะว่าบางทีแค่ถามเฉยๆ ไม่ได้ต้องการคำตอบ แต่ขอเถอะ อย่าถามเลย เพราะคำถามนี้อาจจะทำให้คนถูกถามแปลงร่างจากนางฟ้าเป็นนางมารได้นะ

ตอนเด็กๆ ผู้ใหญ่ก็มักจะสอนเราว่าอย่าเพิ่งรีบมีแฟน แต่พอโตขึ้นมาหน่อยก็เอาแต่ถามทุกครั้งที่เจอหน้าว่า “มีแฟนรึยังล่ะหนู” พอเราตอบไปว่ายังไม่มีเราก็จะได้รับคำเทศนาอีกชุดใหญ่ บอกว่าให้รีบหาสามี ไม่งั้นจะมีลูกไม่ทันใช้ เราก็อยากจะบอกใจจะขาดว่าใครล่ะคะ ที่บอกหนูว่าอย่ารีบมีแฟนน่ะ แต่ก็ทำได้แค่ยิ้มรับแห้งๆเท่านั้น

เหมือนเป็นชุดคำถามต่อเนื่องกันกับข้อที่แล้ว พอเราบอกเขาไปว่ายังไม่มีแฟน คำถามต่อมาที่จะได้รับก็คือ “แล้วมีคนมาจีบบ้างหรือเปล่า” โถ่คุณลุงคุณป้าขา ทุกวันนี้แค่มีเพื่อนคุยด้วยก็ถือว่าเป็นบุญชีวิตแล้วล่ะค่ะ ไม่กล้าคาดหวังเลยว่าจะต้องมีคนเข้ามาจีบ ก็ดูสมัยนี้สิ มีผู้หญิงเยอะกว่าผู้ชายซะอีก นี่ยังไม่นับผู้ชายที่ชอบผู้ชายด้วยกันเอง ไหนผู้ชายที่ละทางโลกออกบวชไปอีก เป็นผู้หญิงสมัยนี้ต้องสตรองเข้าไว้ เพราะผู้ชายหายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรซะอีก

ส่วนคนที่มีแฟนอยู่แล้วก็อย่ารีบดีใจไป เพราะญาติผู้ใหญ่เขาตั้งคำถามเก่ง ในเมื่อมีแฟนอยู่แล้ว คบหาดูใจกันมาก็ซักพักนึงก็ถามหาเรื่องแต่งงงานซะเลย คำถามนี้ใช่ว่าจะตอบได้ง่ายๆซะด้วย ยิ่งคู่ไหนที่คบกันมานานก็ยิ่งหาเหตุผลมาตอบยากขึ้นไปอีก แต่จะทำยังไงได้ก็คนมันไม่พร้อมนี่นา จะแต่งงานทั้งทีต้องเตรียมอะไรตั้งหลายอย่าง วอนพี่ป้าน้าอาโปรดเห็นใจอย่าถามบ่อยเลยนะ

เรื่องหน้าที่การงานก็เป็นอีกเรื่องที่มักถูกเพ่งเล็งจากบรรดาญาติๆ คำถามแรกที่ใช้เปิดประเด็นเรื่องการทำงานเลยก็คือ “ทำงานที่ไหนเหรอ” ใจอยากจะตอบว่าทำที่ไหนก็เรื่องของหนู แต่เอาเข้าจริงแล้วคำถามนี้ก็ไม่ได้ยากเกินจะตอบหรอกนะ ถ้าตอบได้ก็ตอบเถอะนะ

การถามเรื่องที่ทำงานก็เหมือนเป็นการปูทางให้เข้าสู่คำถามที่ว่า “เงินเดือนเท่าไหร่” แน่นนอนว่าคำถามนี้ยากที่จะตอบ เพราะถ้าเราตอบไปแล้วเงินเดือนเราน้อยกว่าลูกหลานของญาติเดี๋ยวเราก็ต้องนั่งฟังท่านนั่งพูดถึงลูกหลานของตัวเองอีก แต่ถ้าเงินเดือนเราเยอะแล้วตอบไม่ดีเดี๋ยวก็ถูกมองว่าเป็นคนขี้อวดอีก เราขอแนะนำให้คุณลองตอบแบบกว้างๆดู อาจจะช่วยหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ชวนอึดอัดใจได้นะ

เหมือนกับพอเรามีงานที่มั่นคง หลายๆคนคงจะคิดว่าเราจะต้องซื้อสิ่งของที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ตัวเอง รถอาจจะเป็นสิ่งแรกๆที่หลายซื้อ จนทำให้คำถาม “ทำไมไม่ซื้อรถ” ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วการเดินทางสมัยนี้ก็ค่อนข้างหลากหลาย แถมปริมาณรถบนถนนยังเยอะสุดๆ แล้วก็ความสะดวกสบายในการเดินทางของแต่ละก็ไม่เหมือนกัน บางคนขับรถแล้วสะดวก แต่บางคนก็ชอบใช้บริการขนส่งสาธารณะ ลองตอบญาติไปแบบนางงามอย่าง หนูกลัวโลกร้อนค่ะ ทางเดียวกันไปด้วยกันไงคะ หรือ มลพิษมันเยอะค่ะ หนูสะเทือนใจ ก็ดูเป็นคำตอบที่แหวกแนวดีนะ

เรื่องเงินเป็นเรื่องที่ไม่เข้าใครออกใคร การขอยืมเงินก็เช่นกัน เชื่อว่าคำถามนี้เราอาจจะไม่ได้ยินจากญาติผู้ใหญ่บ่อยนัก แต่ถ้าเจอเข้าก็คงยากที่จะบอกปฏิเสธ ก็เราเด็กกว่าจะพูดอะไรก็ยังเกรงใจญาติ แต่การจะให้ยืมเงินก็คงจะไม่ได้เหมือนกัน วิธีการออกจากสถานการณ์สุดกระอักกระอ่วนนี้ ให้คุณลองตอบคำถามให้ออกไปในเชิงตลก เพื่อเป็นการลดบรรยากาศที่ไม่ดี ถ้าญาติยังเงียบลองหัวเราะแห้งๆเสริมไปด้วยก็ได้นะ

จบกันไปแล้วกับคำถามสุดจี๊ดที่เรามักได้รับเมื่อถึงวันรวมญาติ แต่การจะนำคำตอบที่เราให้เป็นตัวอย่างไปใช้ก็อย่าลืมดูบรรยากาศรวมทั้งท่าทีของคู่สนทนาก่อนด้วยล่ะ เพื่อให้เราสามารถตอบคำถามได้อย่างเต็มปากเต็มคำ

และถ้าใครเคยเจอกับคำถามเด็ดที่นอกเหนือจากนี้ ก็อย่าลืมเล่าสู่กันฟังบ้างล่ะ เผื่อคราวหน้าเจอญาติถามบ้างจะได้รับมือได้อย่างอยู่หมัด

————————————–

Infographic Thailand รับผลิต Infographic / Motion graphic / Presentation / อบรม Infographic และ ผลิต Infographic ด้วยเทคนิคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น AR VR 360 กรอกรายละเอียดบอกเราได้ที่ http://bit.do/parentliketotalkwithme