เหตุการณ์ที่ทีมหมูป่าทั้ง 13 คนไปติดอยู่ในถ้ำหลวง ถือเป็นเหตุการณ์ครั้งใหญ่ที่ทำให้เกิดการร่วมมือกันของนานาประเทศ เพื่อทำการช่วยเหลือทั้ง 13 คนออกมา รวมทั้งยังเป็นเหตุการณ์การติดถ้ำพร้อมกับมีน้ำท่วมภายใน ทำให้การช่วยเหลือและกู้ชีวิตทำได้ยากมากขึ้นไปอีก แต่ปฏิบัติการครั้งนี้ก็ลุุล่วงไปได้ด้วยดี เพราะความร่วมแรงร่วมใจกันของทุกๆภาคส่วน เราจึงขอสรุปเหตุการณ์ครั้งนี้เอาไว้ เพื่อเป็นการระลึกถึงความทุ่มเทและการเสียสละของเจ้าหน้าที่ทุกคน รวมทั้งเพื่อให้ทุกคนไม่ลืม และเก็บเหตุการณ์นี่เป็นอุทาหรณ์เตือนใจทุกๆคนด้วย

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เป็นวันแรกที่มีการแจ้งว่ามีเด็กหายเข้าไปในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ได้มีการเข้าไปตรวจสอบและพบจักรยานทั้งหมด 11 คันจอดเอาไว้ และเนื่องจากตอนนั้นที่ถ้ำหลวงได้มีฝนตกหนักจนทำให้เกิดเกิดน้ำท่วมภายในถ้ำ ทำให้ได้มีการส่งนักประดาน้ำเข้าไปตรวจสอบ และพบรอยเท้า รองเท้า รวมถึงกระเป๋าของผู้สูญหาย และในครั้งนี้ได้มีการแจ้งขอความช่วยเหลือไปยังทางหน่วยซีลอีกด้วย

และถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนมีพื้นที่มากถึง 5,000 ไร่ และลึกกว่า 10 กิโลเมตร แถมเส้นทางภายในถ้ำยังเดินทางค่อนข้างยากลำบาก ซึ่งได้มีการคาดเดาว่าทั้ง 13 คนน่าจะเดินทางหนีน้ำเข้าไปภายในถ้ำ ซึ่งได้มีการคาดการณ์ตำแหน่งที่ทั้ง 13 ชีวิตน่าจะอยู่ ซึ่งที่ที่คาดว่าทั้ง 13 ชีวิตอยู่นั้น อยู่ไม่ห่างจากปากถ้ำมาก

ซึ่งเมื่อหน่วยซีลเดินทางไปถึงตำแหน่งที่คาดว่าทั้ง 13 คนอยู่ แต่ก็ไม่พบตัวผู้สูญหาย และมีหน่วยบินที่ทำหน้าที่โปรยอาหารเข้าไปภายในถ้ำ ผ่านทางปล่องถ้ำด้านบน เพื่อเป็นการช่วยเหลือทางนึง ซึ่งได้มีการแนบกระดาษที่เขียนข้อความเอาไว้ว่า “ถ้าเจอขนมให้หยุดรอความช่วยเหลือจากหน่วยซีล”

ซึ่งในการค้นหาก็มีอุปสรรคที่นิ่งใหญ่อย่างหนึ่งก็คือเรื่องของน้ำ ซึ่งหลายต่อหลายครั้งที่เกิดเหตุการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำภายในถ้ำเพิ่มสูงมากขึ้นไปอีก ซึ่งก็ได้มีหลายๆภาคส่วนเข้ามาช่วย ไม่ว่าจะเป็นการสูบน้ำออกจากถ้ำ การขุดเจาะและค้นหาทางออกจากถ้ำทางอื่น และการค้นหาทางเข้าถ้ำทางอื่นด้วย และยังมีความช่วยเหลือจากหลายๆชาติเข้ามาสมทบเพิ่ม ในครั้งนี้ได้มีการคาดเดาว่าทั้ง 13 อยู่ที่บริเวณพัทยาบีช

และแล้ววันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง นักประดาน้ำจากประเทศอังกฤษได้พบทั้ง 13 คนที่บริเวณเนินนมสาว ซึ่งอยู่ห่างจากพัทยาบีชไปประมาณ 400 เมตร ในวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เวลา 21.45 น. โดยการที่เราเจอทั้ง 13 คนถือเป็นสิ่งที่น่ายินดีมากๆสำหรับคนทั่วโลก อย่างใน Twitter ก็มีการเกิด #คนแปลกหน้าที่อยากเจอที่สุด ขึ้นด้วย

ซึ่งหลังจากที่เราพบทั้ง 13 คนแล้ว ขั้นตอนต่อมาที่ต้องทำก็คือจะต้องมีการส่งนักดำน้ำเข้าไปอยู่เป็นเพื่อน เพื่อเข้าไปทำการช่วยเหลือ พูดคุย รวมทั้งมีการส่งอุปกรณ์ดำรงชีพเข้าไปด้วย นอกจากนี้ทีมที่อยู่ภายนอกก็จะทำการสำรวจโครงสร้างถ้ำเพิ่มเติม

ในส่วนของนักดำน้ำที่เข้าไปอยู่เป็นกับทั้ง 13 คน ก็จะเข้าไปดูแล เตรียมความพร้อม เช็คสุขภาพของแต่ละคน และทำการปรับสภาพของทุกคนให้สามารถดำรงชีพได้

หลังจากนั้นนักดำน้ำจะทำการสอนการดำน้ำให้กับทั้ง 13 คน เพื่อที่จะให้สามารถดำน้ำออกมาจากถ้ำได้ และทำการส่งอาหารเข้าไปเพิ่มเติม เพราะมีการคาดเดาว่าไม่น่าจะสามารถออกมาจากถ้ำได้ในช่วงสั้นๆ จำเป็นจะต้องใช้เวลา แต่ทีมด้านนอกก็ไม่ได้รออยู่เฉยๆ ยังคงทำการระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งการช่วยเหลือทั้ง 13 คนในครั้งนี้ ได้รับการร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทั่วโลก และในไทยก็ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งน้ำใจของชาวไทยทุกคน ที่ช่วยเหลือและซัพพอร์ตเจ้าหน้าที่เท่าที่ทำได้ ซึ่งในการพาทั้ง 13 คนออกมา ไม่ได้เป็นการนำออกมาพร้อมกันในครั้งเดียว แต่เป็นการลำเลียงออกมาที่ละชุด ทั้งหมด 3 ครั้ง ซึ่งก็ได้มีการลำเลียงไปยังโรงพยาบาลและจะทำการดูแลต่อไป ตามแผนที่ได้วางเอาไว้

สามารถติดตามสรุปเหตุการณ์ทั้งหมดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/pg/infographic.thailand/photos/?tab=album&album_id=1822663414443622

————————————–

Infographic Thailand รับผลิต Infographic / Motion graphic / Presentation / อบรม Infographic และ ผลิต Infographic ด้วยเทคนิคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น AR VR 360 กรอกรายละเอียดบอกเราได้ที่ http://bit.do/cavetimeline