ถ้ามีคนมาถามเราว่า Infographic คืออะไร หลายคนก็คงจะตอบได้ทันทีว่ามันคือการนำข้อมูล มาทำเป็นภาพหรือกราฟิก เพื่อให้เราเข้าใจข้อมูลนั้นๆได้ง่ายขึ้น ในเวลาสั้น ๆ แล้วถ้าเกิดเปลี่ยนจาก Infographic เป็น ‘Gifographic’ ล่ะ? คุณจะให้คำตอบกับคำ ๆ นี้อย่างไร

คุณเคยได้ยินคำว่า ‘Gifographic’ หรือไม่? หากคุณไม่เคยก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เชื่อว่าสื่อนี้เคยผ่านตาใครมาแล้วหลายคน เพียงแต่อาจจะไม่รู้ชื่อเรียกของมันก็เป็นได้

ก่อนอื่นเรามาแยกส่วนของคำนี้กันก่อน

                       GIF ย่อมาจาก Graphics Interchange Format เป็นสื่อแบบหนึ่งที่นิยมทางอินเทอร์เน็คมาตั้งแต่ปี 1987 หลายคนก็คงจะเคยเห็นภาพเคลื่อนไหว ที่แชร์กันตามอินเทอร์เน็ต ใช้สื่อแทนอารมณ์ หรือคำพูดต่าง ๆ อย่างตอนนี้ Facebook เองก็มีฟีเจอร์ GIF ขึ้นมาให้เราได้ใช้แชทคุยกับเพื่อนอย่างสนุกสนาน

(https://media.giphy.com/media/3o6ozi9wBRC4hHe2bK/giphy.gif)

                  กลับมาที่ตัวละครหลักของเรื่องนี้ ‘Gifographic’ นั้นคือ ส่วนผสมระหว่าง 3 สิ่ง ได้แก่ GIF , Graphic และ Infographic  หรือจะเรียกว่ามันเป็นวิวัฒนาการหนึ่งของ Infographic ก็ว่าได้ มีการใช้ภาพเคลื่อนไหวในการให้ข้อมูลแทน Infographic แบบดั้งเดิม ซึ่งจะช่วยสร้างความบันเทิงให้กับคนดู และยังช่วยให้เราเรียนรู้ได้ไวและเข้าใจข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

Gifographic แนวทางใหม่ที่น่าจับตามอง

                 หลังจาก Infographic ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง ยังไงก็ตามแม้จะมีสีหรือสิ่งต่างๆให้ดูโอเค คนก็ยังต้องอ่านทำความเข้าใจ จึงถึงเวลาของการพัฒนาแนวทางใหม่ ทำอย่างไรที่จะให้ข้อมูลที่เรานำเสนอนั้นน่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิม? เมื่อตั้งคำถามแบบนี้แล้ว Gifographic ก็ถือเป็นตัวเลือกหนึ่ง ที่เราไม่ควรลืมนึกถึง!

                 รู้หรือไม่ว่าคนเรานั้นสามารถจดจำสิ่งที่เราเห็นและทำได้ถึง 80% เทียบกับ 30% ที่เราอ่านและ 10% ที่เราได้ยิน ผู้อ่านอย่างเรา ๆ จึง มีแนวโน้มมากที่จะเข้าใจและจำข้อมูลที่ในรูปแบบภาพมากกว่าแบบอื่น ๆ  

                 ดังนั้นGifographics จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว เพราะมันทำงานบนหลักการของ motion เหมือนกับผู้กำกับหนัง ใช้การเคลื่อนไหวเพื่อให้คนดูนั้นเห็นชัดเจนจากจุดนึงไปอีกจุดนึง การเคลื่อนไหวนี้จะช่วยดึงความสนใจจากคนให้เลือกมาดูงานของเราเป็นอันดับแรก ซึ่งจะช่วยให้เราเข้าใจข้อมูลได้แม่นยำ และรวดเร็วมากขึ้น เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว เราจึงอาจจะพอคาดเดาได้ว่าในอนาคตข้างหน้า Gifographics อาจกลายเป็นสื่อที่ใคร ๆก็ต่างนึกถึงเป็นลำดับต้น ๆ ก็เป็นได้มาลองดูตัวอย่างของ Gifographic กัน!

(http://animagraffs.com/cheetah-natures-speed-machine/)

              นี่คือ Infographic ที่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับความเร็วของเสือชีตาร์ ข้อมูลนี้มีเนื้อหาให้อ่านจำนวนมาก อย่างกับรายงานชีววิทยา แต่ Gifographic ทำให้ข้อมูลทั้งหมดมันอ่านไ้ด้ง่าย และสนุกมากขึ้น อย่างรายละเอียดเล็กน้อย เช่น การเคลื่อนไหวของเสือแบบอัติโนมัติ ก็ช่วยทำให้ผู้อ่านเห็นกระบวนการทำงาน การขยับร่างกายของเสือแบบชัดเจน

(http://visual.ly/golf-swing-anatomy?utm_source=visually_embed)

                    ตัวอย่างการตีวงสวิง ของกีฬากอล์ฟ ออกแบบโดย Jake ONeal. แสดงท่าทางการตีวงสวิงของกอล์ฟตั้งแต่ตั้งท่าไปจนตอนตีวงสวิง อีกทั้งยังมีภาพนิ่งประกอบข้างแบบ Step By Step อีกด้วย เรียกได้ว่าดูแล้วคนที่ตีกอล์ฟไม่เป็นก็คงทำตามได้ในทันที

(http://infographic.in.th/infographic/5-วัน-5-ท่า-แก้ออฟฟิศซินโดร)

                      หรือจะเป็นเรื่องง่าย ๆ อย่างท่าที่ช่วยแก้อาการออฟฟิศซินโดรม ก็จะช่วยให้เราดูจากภาพ GIF และปฏิบัติตามได้อย่างทันทีและถูกต้อง โดยมีข้อความอื่น ๆเป็นส่วนประกอบ และยังทำให้เราอินไปกับInfographic นั้น ๆด้วย

จากตัวอย่างนี้เราคงจะเห็นแล้วว่า Gifographic มีความโดดเด่นอย่างไร และแน่นอนว่ามันกำลังถูกจับตามองในการนำมาประยุกต์ในเชิงธุรกิจอีกด้วย

มาลองดูกันให้ชัด ๆ ว่า Gifographic มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

1. อ่านง่าย อ่านได้ไว ไม่เสียเวลา
ประหยัดเวลาคนอ่าน ไม่จำเป็นต้องอธิบายยาวมาก

อย่างที่ได้บอกไปในช่วงต้นแล้วว่า ภาพเคลื่อนไหวนี้จะช่วยสื่อสารให้คนอ่านเข้าใจข้อมูลได้ง่ายขึ้นและไวขึ้น ไม่ต้องมาไล่อ่านข้อมูลทีละส่วน ๆ

2. เปลี่ยน Infographic ที่น่าเบื่อ ให้สนุกขึ้น

เรื่องตัวเลข ข้อมูล สถิติ เป็นเรื่องที่ถ้าใครต้องมาอ่านอาจจะเกิดอาการสับสน งงงวยกับตัวเลขเหล่านั้นก็เป็นได้ ดังนั้น Gifographic จึงสร้างเป็นภาพเคลื่อนไหวให้กับงาน เพื่อให้ข้อมูลตัวเลขเหล่านั้นดูเข้าใจง่าย และดูน่าสนุกมากขึ้น

3.ทุกกระบวนการ เข้าใจได้ในภาพเดียว

เมื่อมีข้อมูลที่แสดงการเคลื่อนไหวของสิ่งต่าง ๆ หรือแสดงลำดับขั้นตอนกระบวนการผลิต การทำบางสิ่ง การที่เราเลือกใช้ Gifographic ก็จะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ดูน่าอ่าน และเข้าใจได้ง่าย ได้เห็นทุกอย่างออกมาเป็นภาพเคลื่อนไหว ก็จะทำให้คนอ่านสนุกกับข้อมูลมากขึ้นอีกด้วย

4. สร้างเอกลักษณ์ให้แบรนด์ได้

การสร้างสื่อที่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มคนได้ ถือเป็นความสำเร็จอย่างหนึ่งทางธุรกิจ   Gifographic ก็นับว่าเป็นสื่อกราฟิกที่สามารถนำเสนอข้อมูลออกมาได้มีเอกลักษณ์และน่าสนใจ และเชื่อว่ามีหลายคนที่จะเปิดดู Gifographic นั้นซ้ำ ๆ จนจดจำได้ว่าการนำเสนอข้อมูลลักษณะเป็นของแบรนด์ใด

(http://mocomipullzone.anibraindigitalt.netdna-cdn.com/wp-content/uploads/2015/11/Credit-card_fin.gif)

                   Infographic เป็นสื่อที่กำลังจะถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องในรูปแบบต่าง ๆ ในปี 2017 ที่จะถึงนี้ Gifographic ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสื่อรูปแบบใหม่ที่อาจจะได้รับความนิยม และเป็นตัวเลือกในการทำสื่อเสนอข้อมูลมากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับคนอ่านอย่างเรา ๆ ให้ไม่ต้องอ่านข้อมูลยาว ๆแสนน่าเบื่ออีกต่อไป อีกทั้งยังสนุกไปกับการอ่าน Infographic รูปแบบใหม่นี้อีกด้วย!

สนใจทำ Gifographic ติดต่อสอบถามได้ที่ http://www.infographicthailand.com/contact-form
หรือ คุณโรส (099-449-2654)

ข้อมูลอ้างอิงจาก

• http://www.snapapp.com/blog/gifographics-5-keys-unlocking-more-powerful-infographic
• http://www.business2community.com/marketing/4-benefits-using-gifographics-grow-business-01598239#XhVk62e5RTcEjVMB.97
• http://www.scribblelive.com/blog/2013/07/01/animated-gif-infographics/
• https://www.spotzer.com/trend-to-watch-in-2016-gifographics