คุณสามารถรับ Infographic ดีๆ ฟรี ส่งตรงถึง อีเมลคุณ

unnamed

work hard VS work smart

Published by Infographic Thailand

work smart5-01-01-01-02-01-01

         เชื่อว่าหลายคนคงเคยเป็นกันมาหลายโรคแล้ว แต่ไม่รู้ว่าโรคนี้จะเคยเป็นกันบ้างไหมนะ555 กับโรค”บ้างาน” หรือ Workaholic บางคนอาจไม่คุ้น แต่ถ้าเป็น Alcoholic ละก็ทุกวันใช่ไหมละ (ก็มาจากงานเยอะเนี่ยละT^T) มาดูกันดีกว่าว่าคุณจะมีคุณสมบัติเพียงพอหรือไม่กับการเป็นโรคนี้ (น่าภูมิใจเนอะ ว่าไหมมม) เผื่อบางทีเวลาลางานเจ้านายจะได้สงสารและเห็นใจคุณมากขึ้นก็ได้นะ

        ก่อนอื่นต้องดูว่าคุณมีบุคลิกภาพเหล่านี้หรือไม่ คือ ชอบความสมบูรณ์แบบ เป็นคนเจ้าระเบียบ เอาจริงเอาจังอยู่เสมอ ชอบแข่งขัน มีความทะเยอทะยานสูง และมีความสุขจากการได้ทำงาน (ตอบเจ้านายแบบนี้ รักตายเลยนะเนี่ย) ซึ่งหากมีลักษณะอย่างนี้แสดงว่า คุณจะเป็นคนที่ใช้เวลาทำงานนานมาก คือ อย่างน้อย 9.6 ชั่วโมง/วัน หรือคิดเป็น 48 ชั่วโมง/สัปดาห์ นั่นทำให้ประเทศไทยมีสถิติใช้เวลาทำงานมากเป็นอันดับ 3 ของโลกเลยทีเดียว

        ซึ่งการทำงานหนักนั้น นอกจากบุคลิกภาพส่วนบุคคลที่เป็นสาเหตุหนึ่งแล้ว ยังอาจมาจากสาเหตุอื่นอีก เช่น มีเวลาว่างเหลือเฟือ ก็เลยนึกครึ้มอยากทำงานขึ้นมา (อยากมีส่วนไว้ส่วนตัวสักคนจัง อิอิ) การบริหารงานไม่เป็น  มีจิดใจที่ฟุ้งซ่าน ขาดสมาธิ  และมีปริมาณงานมากจนเกินไป (แบ่งๆไปให้คนอื่นทำก็ด้ายยยย) เพราะฉะนั้นจะมั่นใจได้อย่างไรว่าคุณใช้เวลาในการทำงานได้อย่างเหมาะสมแล้ว

        ในเมื่อการทำงานมากเกินไป อาจส่งผลให้คุณเป็นคนขี้หงุดหงิด เป็นโรคกระเพาะจากการกินอะไรไม่ลง จิตใจฟุ้งซ่าน ร่างกายเหนื่อยล้า และอาจทำให้โรคร้ายอื่นๆถามหาได้ ทำไมไม่เปลี่ยนจาก work hard มาเป็น work smart ละ จะsmart ยังไงมาดูกันเลย

         S = smile ยิ้มรับกับทุกปัญหาที่เข้ามา เพราะทุกปัญหามีทางแก้เสมอ

         M = manage บริหารเวลาให้เป็น จะได้ใช้เวลากับคนที่รักคุณและคนที่คุณรักบ้าง

         A = analyze รู้จักวิเคราะห์งาน ไม่ทำเรื่องที่เกินศักยภาพของตน

         R = relax พักผ่อน ออกไปเที่ยวเล่นชิลๆบ้าง

         T = train หากคุณทำงานกันเป็นทีม ก็ฝึกให้เพื่อนในกลุ่มมีทักษะที่หลากหลาย เวลาทำงานจะได้ไม่เหนื่อย หากมีใครคนนึงหายไป

         ไม่ยากใช่ไหมละ กับการรักษา โรคบ้างาน ยังไงก็ไปปรับใช้กันนะ รับรองว่ามีแต่งาน มีแต่เงิน ไม่มีโรคแน่นอน

 

Shared on 31 JUl 2014 in Work life

ส่งต่อความรู้ดีๆ

LINE it!

บทความที่เกี่ยวข้อง

FOMO ภัยร้ายโรคกลัวตกกระแส

                     ยอมรับเลยครับว่า ยุคนี้ใครไม่มีสมาร์ทโฟนถือว่าแปลกมากๆ แท

5 ธุรกิจมาแรง นำเทรนด์อนาคต...

               ใครที่อยากจะประสบความสำเร็จ ไม่ใช่แค่ต้องพึ่งดวงอย่างที่กัน การศึกษาตลาด

7 เทคนิคทำให้คนถูกชะตาจากหน่วย FBI

                                                                                       

unnamed