เราได้นำเอาโปรแกรมที่มาคนนิยมใช้ในการทำ Presentation เป็นสองโปรแกรมที่มาแรงในปีนี้ มาวิเคราะห์ข้อดีและข้อเสีย เพื่อใช้เป็นการตัดสินใจในการเลิอกใช้โปรแกรมว่าแบบไหนเหมาะที่เหมาะกับเรื่องที่คุณจะนำเสนอ ลองอ่านดูเพื่อเป็นทางเลือกกันค่ะ
Microsoft PowerPoint
เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าโปรแกรม PowerPoint เป็นโปรแกรมนำเสนอที่อยู่คู่กับการทำการนำเสนอมานมนาน และตอนนี้ PowerPiont ก็มีผู้ใช่งานมากกว่า 500 ล้านคนทั่วโลกและก็มีผู้ใช้ PowerPiont ในการนำเสนออยู่ 95% PowerPoint ถือว่าเป็น Software ที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเล่าเรื่องแบบเป็นเส้นตรงคือมีตอนแรก ตอนจบ และตอนสุดท้ายเรียงลำดับกันไป
ข้อดีของ PowerPoint
1 เป็นมิตรกับผู้ใช้ – ด้วยหน้าตาและเครื่องมีที่มีอยู่ในโปรแกรม ที่ทำให้ผู้ใช้ใช้งานง่าย เพราะมันใกล้เคียงกับ Microsoft Word จึงทำให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่เรียนรู้วิธีใช้งานได้ง่าย
2 เครื่องมือที่ใช้งานง่าย – PowerPoint มาพร้อมกับเครื่องมือสำเร็จรูปในการออกแบบสไลด์มาแล้ว ซึ่งคุณสามารถเลือกชุดสี ตัวหนังสือ กราฟิก และ Background ได้ทั้งหมดในโปรแกรม
3 มี Transition และอนิเมชั่น – คุณสามารถใช้อนิเมชั่นที่มีมากับโปรแกรมเพื่อเพิ่มอรรถรสในการนำเสนอสไลด์ได้
4 มี Hyperlinks – ขอดีของ Hyperlinks คือคุณสามารถใส่มันลงไปให้คลิกได้ จะเป็นการคลิกเพื่อเข้าเว็บไซต์ หรือคลิกเพื่อไปอีกสไลด์หนึ่งก็ทำได้
5 เชื่อมต่อกับ SlideShare ได้ – คุณสามารถอัพโหลด Presentation ลงบนเว็บไซต์ออนไลน์อย่าง SlideShare เพื่อแชร์ได้
6 สามารถปริ้นสไลด์ออกมาได้ – ให้คุณสามรถปริ้นสไลด์ออกมาจดสิ่งที่สำคัญไว้ได้
7 มีกราฟและตาราง – มีกราฟและตารางสำเร็จรูป เพื่อทำให้งานนำเสนอของคุณแบ่งข้อมูลเป็นหมวดหมู่ได้
ข้อเสียของ PowerPoint
1 มีการเล่าเรื่องแบบเส้นตรง**– บางคนอาจต้องการให้การนำเสนอเป็นการเล่าเรื่องแบบข้ามไปอีกสไลด์หนึ่ง แต่ PowerPoint ต้องไปตามเส้นตรง
2 ไฟล์ใหญ่ – PowerPoint ทำให้เกิดไฟล์ที่ใหญ่มากถ้าคุณใส่รูปภาพ เสีย หรือวิดีโอลงไป แล้วถ้าเกิดคุณต้องการส่งอีเมลล์มันอาจจะเป้ฯเรื่องที่ยุ่งยากในบางครั้ง
Prezi
Prezi ถือว่าเป็นโปรแกรมที่ใหม่ที่มีลักษณะการนำเสนอแบบใหม่ Prezi อาจจะไม่ใช้โปรแกรมที่มีหน้าเปล่าแล้วให้ออกแบบเหมือนกับโปรแกรมทำ Presentation แบบอื่นๆ เพราะ Prezi เป็นการนำเสนอแบบไม่เป้นเส้นตรง เพราะ Prezi สามารถให้คุณสร้างให้ไอเดียออกมาแบบไม่มีขีดจำกัด
ข้อดีของ Prezi
1 สามารถซูมได้ – สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของ Prezi คือการซูม เพราะมันจะทำให้ผู้ใช้สามารถซูมเข้าไปในไอเดียที่ต้องการจะพูด และซูมออกมาเพื่อดูภาพรวมทั้งหมดได้
2 การเล่าเรื่องแบบไม่เป็นเส้นตรง – ผู้ใช้สามารถเลือกสิ่งที่จะนำเสนอได้ว่าจะนำเสนอตรงไหนก่อน สามารถข้ามไอเดียหนึ่งไปอีกไอเดียหนึ่งได้
3 แชร์ข้อมูลได้ง่าย – สามารถแชร์ Presentation ให้คนสามารถร่วมดูได้มากถึง 10 คน เพื่อเป็นการร่วมกันดูไอเดียได้ดีขึ้น
ข้อเสียของ Prezi
1 มีข้อจำกัดของการออกแบบ – Background มีให้ใช้จำกัด และตัวหนังสือก็ไม่สามารถเปลี่ยนได้ทั้งหมด
2 ราคาที่ค่อนข้างสูง – สำหรับเวอร์ชั่นแบบ offline ที่มีให้ใช้บน Desktop มีราคาถึง159$/ปี ในขณะที่เวอร์ชั่นสำหรับนักเรียนนักศึกษามีให้ใช้ฟรีแบบออน์ไลน์ แต่วจำกัดพื้นการเก็บไฟล์
3 อาจทำให้เวียนหัวในบางครั้ง – บางครั้ง Prezi ก้อาจทำให้ผู้ชมเวียนหัวได้ ด้วยการซุทเข้าซูมออกหรือแพนไปมาบ่อยๆ
และนี่ก็เป็นการสรุปเอาข้อดีและข้อเสียจากผู้ใช้งานมาให้คุณได้ตัดสินใจในการเลือกใช้สองโปรแกรมนี้ เราอยากแนะนำว่าถ้าหากคุณอยากลองนำเสนอสิ่งที่เป็นไอเดียหรือไม่อยากออกแบบอะไรมากนัก ให้คุณลองเลือกใช้ Prezi ดู แต่ถ้าหากคุณอยากนำเสนอเรื่องราวหรือข้อมูลที่เป็นขั้นตอนก็ให้คุณเลือกใช้ PowerPiont ทั้งสองโปรแกรมนี้มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะนำมันไปใช้งานแบบไหนให้ถูกต้องเหมาะสมมากกว่า
**(การเล่าเรื่องแบบเส้นตรง คือการเรียงลำดับเรื่องแบบ 1 2 3 4 …. แต่ การเล่าเรื่องแบบไม่เป็นเส้นตรง คือการเล่าเรื่องแบบ 1 4 หรืออาจจะข้ามไป 10)
สนใจทำ Presentation และ Infographic ติดต่อที่นี่ PresentationX
และติดตาม Presentation และ Infographic ดีๆ ได้ที่เพจนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก
www.presentationpanda.com
แสดงความคิดเห็น