ต้องยอมรับว่า เงิน เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย ในทุกวันนี้ที่ค่าครองชีพมีแต่สูงขึ้น แต่ชีวิตของทุกคนยังมีภาระค่าใช้จ่ายมากมายอยู่ดังเดิม(ชีวิตจริงยิ่งกว่าละครน้ำเน่าอีกนะเนี่ย) โดยดูเหมือนว่ายิ่งโตมากขึ้นเท่าไหร่ จำนวนที่จะต้องใช้ก็มากขึ้นเท่านั้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่บางคนพยายามหาเงินไม่ว่าจะเท่าไหร่ก็ตาม เพื่อมาหมุนให้สภาพการเงินของตัวเองคล่องตัวซะหน่อย อันเป็นสาเหตุของการเป็น “หนี้” ในที่สุด ซึ่งที่คนติดมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น หนี้บัตรเครดิต

               เพราะเราไม่ได้ยืมเงินจากเพื่อน แล้วอยู่ๆก็จะทำเนียน ให้มันลืมๆจบกันไป เมื่อมีกู้ก็ต้องมีใช้คืน จากผลการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง พบว่า กว่า 87.2 % มีทั้งชำระหนี้บางส่วนและไม่ชำระหนี้เลย โดยมีเพียง 12.8 % เท่านั้นที่ชำระหนี้ทั้งหมด ซึ่งกลุ่มอาชีพค้างชำระมากที่สุดก็คือ รับจ้าง โดยเมื่อเปรียบเทียบระหว่างหนี้กับรายได้แล้ว มีหนี้เพิ่มมากกว่ารายได้ถึง 47.4 % เป็นไปในลักษณะของการใช้ซื้อผ่อนสินค้าเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาคือ ใช้เบิกเงินสด และใช้แทนเงินสดตามลำดับ  นอกเหนือจากอาชีพดังกล่าวแล้ว ก็ย่อมมีกลุ่มอาชีพอื่นเช่นกัน ปรากฏว่านักศึกษาก็เป็นกลุ่มหนึ่งที่เป็นหนี้รวมอยู่ด้วย ซึ่งการที่เป็นหนี้ตั้งแต่อายุยังน้อยอีก อาจจะเป็นสัญญาณของพฤติกรรมการสร้างหนี้ต่อไปในอนาคต

                 รู้อย่างนี้แล้ว ก็ต้องรัดเข็มขัดกันหน่อย ซึ่งเคล็ด(ไม่)ลับเหล่านี้ ก็ง่ายๆเพียงคุณไม่มีเงินจ่าย ก็ไม่ต้องใช้(มีน้ำอดน้ำทน ดีกว่าน้ำตาตกในนะ ) หรือเลือกใช้บัตรที่เข้ากับ Lifestyle ของคุณ อยากใช้เท่าไหร่ก็เอาวงเงินแค่นั้น อย่าเอาวงเงินมาก เดี๋ยวมือเติบแล้วจะกู่ไม่กลับ และรู้จักใช้สิทธิประโยชน์จาก Point ที่เราสะสมได้ ที่สำคัญคือ รีบชำระเต็มจำนวน ให้ตรงตามเวลา เพื่อลดค่าดอกเบี้ยและค่าปรับต่างๆที่อาจตามมาเป็นดอกเห็ดได้ เพียงเท่านี้ คุณก็ “ปลดหนี้” ตัวเองได้แล้ว

                                                               “ไม่มีเครดิต ชีวิตก็สุขได้”