ทำ Infographic 360° ให้รุ่ง ! ด้วย Content แบบไหน

            เมื่อได้ทำความรู้จักกับ Infographic 360° จาก บทความแรก ไปแล้ว คงจะพอเข้าใจกันแล้วในเบื้องต้นว่าสื่อรูปแบบใหม่นี้คืออะไร แล้วเหมาะกับการใช้งานรูปแบบไหน แต่หากใครยังงงและสงสัย บรรทัดต่อจากนี้เราจะมาทำการเจาะลึก ตีแผ่กับ Infographic 360°  ให้มากขึ้นกันนะครับ   

            ก่อนอื่นเรามาทบทวนกันอีกสักครั้งว่า Infographic 360° คืออะไร พูดกันสั้น ๆ ง่าย ๆเลยคือ Infographic 360° คือสื่อ Infographic ในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งจะนำเสนอภาพในลักษณะภาพแนวนอน สามารถเริ่มอ่านจากมุมไหนก่อนก็สามารถเข้าใจได้ โดยจะมีเนื้อหาที่เน้นในการขยายภาพให้เห็นมุมกว้าง และไม่มีการลำดับเหตุการณ์เป็นข้อ ๆ นั่นเอง

(ตัวอย่าง infographic 360° จากเพจ Infographic Thailand)

             แล้วถ้าเราอยากจะผลิต Infographic 360° ขึ้นมาสักชิ้นล่ะ จะเลือกคอนเท้นต์แบบไหนมานำเสนอดี?

            คอนเท้นต์บนโลกใบนี้มีเป็นล้าน ๆ คอนเท้นต์ แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคอนเท้นต์ที่จะนำเสนอผ่าน Infographic 360° ได้ สิ่งที่ต้องคำนึงในการเลือกคอนเท้นต์คือ ต้องเป็นเรื่องที่คนสามารถเข้าถึงได้ในการนำเสนอแบบ 360° ดูแล้วอินไปกับงานนั้น ๆ และคอนเท้นต์นั้นต้องไม่ใช่การอธิบายเป็นลำดับข้อ ๆ  หรือการอธิบายเป็นขั้นตอน

            เพื่อความเข้าใจที่มากขึ้น เราเลยนำตัวอย่างมาให้ดูกันแบบชัด ๆ ว่ามีคอนเท้นต์แบบไหนที่เหมาะจะนำมาทำเป็น Infographic 360° กันบ้าง เราจะแบ่งออกเป็น 2 หมวดใหญ่ๆ ตามนี้

หมวด 1 : Infographic 360° เน้นบรรยากาศ อินทุกสถานการณ์

1.    การท่องเที่ยวและกีฬา

ถ้าพูดถึงภาพแบบ 360° หัวข้อนี้คงเป็นสิ่งที่คนนึกถึงเป็นอันดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ เพราะเราสามารถทำเป็น Infographic 360° เพื่ออธิบายให้เห็นภาพกว้าง ๆ เห็นบรรยากาศโดยรอบ ทำให้คนดูเสมือนได้ไปเที่ยวในที่นั้น ๆ หรือได้สัมผัสการแข่งกีฬานั้น ๆ อย่างใกล้ชิด

(ตัวอย่าง ภาพร่าง infographic 360°) แนะนำ 10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวรอบโลกที่ไม่ควรพลาด เมื่อเรานำมาทำเป็น 360° ก็สามารถหมุนดูบรรยากาศได้โดยรอบในภาพเดียว ไม่ต้องเลื่อนอ่านทีละภาพ และยังสามารถเห็นสถานที่ต่างๆได้อย่างชัดเจนอีกด้วย

2.    สิ่งแวดล้อม ภูมิศาสตร์

หัวข้อนี้ก็อาจจะอธิบายได้คล้าย ๆ กับแนวการท่องเที่ยว คือการทำให้เห็นบรรยากาศโดยรอบ เห็นการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ รอบตัว ซึ่งอาจจะไม่ต้องใช้ภาพจริงในการนำเสนอเสมอไป อาจจะใช้กราฟิก เข้ามามีส่วนช่วยให้งานดูน่าสนใจมากขึ้นได้

(ตัวอย่าง ภาพร่าง infographic 360°) การตัดไม้ทำลายป่า สถิติของต้นไม้ที่ลดลงในแต่ละปี อาจเป็นเรื่องที่ดูน่าเบื่อและพูดถึงกันทุกปี การนำเสนอในรูปแบบนี้จะช่วยให้คนดูเข้าถึงมากขึ้น และเข้าใจเนื้อหาได้จากภาพ มากกว่าการแสดงตัวเลขจำนวนมาก ๆ

3.    การก่อสร้าง ตกแต่งภายใน

เปิดหัวข้อมาแบบนี้ ก็คงจะพอเข้าใจกันได้ว่าคงเน้นไปในเรื่องของบ้าน การออกแบบสิ่งปลูกสร้างทั้งหลาย หรือแม้แต่การออกแบบภายใน ที่จะช่วยให้เราเห็นภาพได้ชัดขึ้น แทนที่จะได้เห็นห้องใดห้องหนึ่ง หรือบ้านมุมใดมุมหนึ่ง เราจะได้เห็นไปรอบ ๆ  แบบทุกมุม

(ตัวอย่าง ภาพร่าง infographic 360°) สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นี่อาจเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ช่วยให้เราซื้อขายกันได้เข้าใจมากขึ้น เมื่อลูกค้าสามารถหมุนดูสภาพโดยรอบบ้านได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องเปิดดูภาพทีละภาพให้เสียเวลา

4.    สุขภาพ และความงาม

เรื่องโรคภัย ความสวยความงามก็เป็นอีกหัวข้อที่ผู้คนให้ความสนใจกันค่อนข้างมากในปัจจุบัน และก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน และมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ ดังนั้นการนำมาทำเป็น Infographic ก็จะช่วยให้เข้าใจและเห็นภาพมากขึ้น แต่ถ้าเราจะนำมาทำเป็น 360° ล่ะ? จะมีเรื่องไหนที่สามารถนำมาออกแบบได้บ้าง

(ตัวอย่าง  infographic 360°) นอกจากการทำให้สุขภาพกายแข็งแรงแล้ว สุขภาพจิตก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะในยุคสมัยที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย

มาดู 15 นิสัยที่จะช่วยให้เรามีความสุขจากสิ่งรอบตัว Click

5.    สถานการณ์ภัยต่าง ๆ

เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน หรืออยู่ในภาวะคับขันเราจะแก้ไขมันได้อย่างไร นี่ถือเป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่เหมาะจะนำมาทำเป็น Infographic 360° เพราะจะทำให้คนดูอินไปกับสถานการณ์นั้น ๆ เหมือนได้เข้าไปสัมผัสจริง และก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตจริงอีกด้วย

(ตัวอย่าง  infographic 360°)  เมื่อเกิดเหตุอัคคีภัยภายในห้องตัวเอง เราจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้อย่างไร เมื่อหมุนดูรอบ ๆ เราจะพบว่ามีของใช้ใกล้ตัวที่สามารถช่วยเราให้รอดจากสถานการณ์คับขันนี้ได้

                  จากตัวอย่างที่ยกมาข้างต้นจะเห็นว่า ส่วนใหญ่ Infographic 360° คือการทำให้เราได้เห็นบรรยากาศรอบ ๆมากขึ้น ได้อินไปกับสถานการณ์นั้น ๆ แต่ก็ยังมี Infographic 360° อีกประเภทหนึ่งที่นำเอาข้อมูลจำนวนมากมาอธิบาย และกลับพบว่าการทำเป็น  360° ทำให้เกิดความแปลกใหม่ และสามารถอธิบายลงไปได้ภายในภาพเดียว บอกกันแบบนี้อาจจะยังไม่เข้าใจ มาลองดูตัวอย่างต่อจากนี้กันนะครับ

หมวด 2 : Infographic 360° เน้นอธิบาย ให้ข้อมูลเพิ่มความเข้าใจ

1.    การคมนาคม

คือการเดินทาง การขนส่ง นอกจากเรื่องการอธิบายเส้นทางออกมาให้เป็น Infographic แล้ว เรายังสามารถอธิบายเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องได้อีกหลายแง่มุม ยกตัวอย่างเช่น

(ตัวอย่าง ภาพร่าง infographic 360°)  Grab ถือเป็นธุรกิจคมนาคมที่กำลังมาแรง แต่อาจจะยังมีบางคนสับสนถึงการทำงานของธุรกิจนี้ Infographic ตัวนี้จะช่วยอธิบายว่า Grab แต่ละประเภทให้บริการอย่างไรบ้าง

2.    การบริการด้านการเงิน

เรื่องเงินจะนำมาทำเป็นภาพ Infographic 360° ได้อย่างไร? ถ้ามองเจาะลึกเกี่ยวกับเงินลงไปแล้ว เราจะพบว่ายังมีอีกหลายเรื่องที่คนยังไม่เข้าใจ แล้วสามารถนำออกมาอธิบายให้เป็น Infographic 360° ได้ เพื่อให้เนื้อหาที่ดูทางการมีความน่าสนใจ แล้วก็น่าอ่านมากยิ่งขึ้น

(ตัวอย่าง ภาพร่าง infographic 360°)   กระบวนการให้บริการของธนาคาร มีกี่ประเภท มีอะไรบ้าง เราจะพาทุกคนเข้าสู่โลกของการเงินที่ควรรู้เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในการทำธุรกรรมทางการเงิน

3.    อื่น ๆ อิงตามกระแส

ในฐานะที่เราเองก็เป็นสื่อประเภทหนึ่ง การเลือกหัวข้อที่กำลังเป็นกระแส เป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงก็เป็นอีกหนึ่งหัวข้อสำคัญ แต่ก็ถือเป็นเรื่องยากเพราะไม่ใช่ทุกกระแสจะสามารถหยิบจับมาทำเป็น Infographic 360° ให้เกิดประโยชน์ได้

(ตัวอย่าง  infographic 360°)   กระแสโปเกมอนที่กำลังมาแรง ก็สามารถเข้ามามีส่วนร่วมกับสื่อนี้ได้ เราจะมาอธิบายถึงวิธีก้าวสู่การเป็นเทรนเนอร์ได้อย่างมืออาชีพผ่าน Infographic 360°ตัวนี้กัน  Click

                     คงรู้จักกันมากขึ้นแล้วใช่ไหมครับ กับ Infographic 360° จากตัวอย่างที่บอกไปเราก็ยังสามารถแตกเป็นเรื่องอื่นๆ ได้อีกมากมายเลย อยู่ที่ว่านักออกแบบจะอยากนำเสนอข้อมูลออกไปรูปแบบไหน อยากให้คนดูเข้าใจอะไรจากงานชิ้นนั้น ทั้งนี้ก็ต้องตรวจสอบด้วยว่าถ้านำมาทำเป็น 360° แล้ว คนดูจะเข้าใจงานเราได้มากขึ้นหรือเปล่า หรือกลายเป็นยิ่งอ่านยิ่งงงกว่าเก่า

การทำ Infographic ให้เป็น 360° ไม่ใช่เรื่องยากครับ ถ้าเราคัดเลือกคอนเท้นต์ที่ใช่ โดนใจคนอ่าน รับรองว่ายอดไลค์ยอดแชร์ถล่มทลายแน่นอน!

สนใจทำ Infographic 360 ติดต่อ Infographic ได้ที่ http://www.infographicthailand.com/contact-form
หรือ คุณโรส (099-449-2654)