สามก๊กถูกนำมาเป็นบทเรียนและนำมาประยุกต์เข้ากับการบริหารงานต่างๆ ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องของพิชัยสงครามในสมัยอดีต การบริหารธุรกิจ การตลาด การวางแผนกลยุทธ์ ฯลฯ ในในเรื่องนั้น มีการใช้สติปัญญา ชิงไหวชิงพริบกันตลอดเวลา เพื่อประกาศความยิ่งใหญ่ของสามตระกูล “เล่า – โจ – ซุน” ซึ่งเรื่องราวไม่ใช่เพียงแค่การคิดวางแผนและวางกลยุทธรบเพียงอย่างเดียว ยังเอามาปรับใช้ในการวางกลยุทธการบริหารคน ที่สามารถทำตามได้ง่ายๆ ตามสไตล์ของตัวละครทั้ง 3 ได้ดังนี้
โจโฉ : เด็ดขาดและห้าวหาญ
ปฎิบัติกับทหารที่สวามิภักดิ์กับตนโดยเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือเครือญาติ ใครผลงานดีก็ได้รับรางวัลและการเลื่อนตำแหน่ง ใครทำผิดก็ย่อมได้รับโทษตามความเหมาะสม ฉะนั้นถ้าจะบริหารคนแบบโจโฉก็ต้อง
- เชื่อมั่นในตัวเอง
- ใช้ไหวพริบในการแก้ปัญหา
- คิดและวางแผนก่อนปฏิบัติ
- ให้โอกาสคนมีฝีมือ
เล่าปี่ : เมตตา คุณธรรม
เล่าปี่ไม่เคยเบียดเบียนคนชั้นล่างที่ลำบากกว่าตน ข้าหลวงบอกให้รีดไถ่ประชาชนและส่งส่วยให้เบื้องบน แต่เล่าปี่ไม่ทำ จึงลาออกจากนายอำเภอ เพราะมีเมตตามากกว่าที่จะเบียดเบียนคนอื่น ถ้าตามสไตล์เล่าปี่ก็ต้อง
- ให้เกียรติซึ่งกันและกัน
- ต้องเชื่อมั่นในตัวลูกน้อง
- เคารพในสิทธิ์ของผู้อื่น
- มีอัธยาศัยไมตรี
ซุนกวน : บริหารดี สามัคคีเกิด
ซุนกวน มักใช้คำเปรียบเทียบเสมือนพ่อสอนลูกในการดุลูกน้อง ไม่ใช้อำนาจบาตรใหญ่ คำสั่งที่ว่าเอาไปประหาร ตัดคอ หรือถ่วงน้ำจะไม่มีให้เห็นในคำพูด นอกจากคนนั้นจะเป้นศัตรูจริงๆ การบริหารคนแบบซุนกวน ก็ต้องตามนี้เลย
- ดูแลลูกน้องบริวารดั่งลูก
- ยอมรับความคิดเห็นผู้อื่น
- ศึกษาหาความรู้ตลอดเวลา
- กตัญญูรู้คุณ
การจะบริหารคนได้ ไม่ใช่ต้องวางอำนาจให้ครนเกรงกลัวเสมอไป การเอาใจใส่ ผู้อื่นเป็นสิ่งสำคัญ ต้องคิดเสมอว่า หากไม่มีคนใดคนหนึ่งไปบริษัทของเราจะเป็นแบบทุกวันนี้ไม่ได้ ไม่ใช่มัวแต่คิดว่า ไม่มีเขา ก็หาคนมาแทนได้ (ซึ่งในความเป็นจริงจะเป็นอย่างงั้นก็เถอะ แต่คุณก็จะไม่ได้คนที่ภักดีกับคุณจริงๆ) ถ้าหากอยากได้รับความจริงใจ ก็ต้องให้ความจริงใจกับคนอื่นก่อนเสมอ แล้วความยิ่งใหญ่และความสำเร็จจะตามมา!
แสดงความคิดเห็น