อย่างที่ทราบกันดีว่า Email Marketing เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ฟรี! ที่นักการตลาดควรลงทุน แต่การที่จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั้น ควรวางแผนโดยศึกษาจากพฤติกรรมผู้ใช้เดิมมาพัฒนาคอนเทนต์ให้โดนใจเพื่อสร้างความสัมพันธ์ให้ลูกค้ารู้สึกมีส่วนร่วมกับแบรนด์และติดใจกลับมาซื้อสินค้าเรา แน่นอนว่าวันนี้ผมมี Tips เด็ดๆ จากเว็บไซต์ forbes.com มาฝากชาว Infographic กันครับ :)
1.หยุดทำเหมือนลูกค้าคุณคือคนแปลกหน้า!
นักการตลาดหลายคนมักจะตกม้าตายกับเรื่องนี้ อย่าทำเพียงแค่ส่งอีเมลล์ออกไปหาลูกค้าคุณเพียงเท่านั้น แต่ให้ทำเหมือนว่าคุณกำลังทำความรู้จักและคุยกับเขา! การแยกประเภทกลุ่มลูกค้าตามความสนใจเป็นเรื่องที่ควรทำ เนื่องจากคุณจะได้รู้ Feedback ที่แท้ของเขาและพัฒนาคอนเทนต์ต่อไปให้ตรงใจลูกค้า เสมือนว่าอ่านใจออกยังไงอย่างนั้น
Image : http://thinkpyxl.com/
2.เปลี่ยนการขายโดยเน้นที่ประสบการณ์จริงจากลูกค้า
เรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภคนั้นสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการทำการตลาดยุคนี้ หมั่นวิเคราะห์ ศึกษากลุ่มเป้าหมาย ปรับการขายโดยเน้นที่ลูกค้าของคุณเป็นหลัก ว่าลูกค้าของคุณชอบหรือสนใจที่อะไร จัดกลุ่มประเภทของลูกค้าของคุณ และพัฒนาคอนเทนต์ให้ตรงตามที่เขาต้องการ เท่านี้ก็ทำให้เขาติดใจกลับมาหาแบรนด์คุณได้ไม่ยากเลยล่ะ !
Credit : www.act-on.com
3.หมั่นประเมินผลลัพธ์และทดลองส่งอีเมลล์ก่อนอยู่เสมอ!
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการหมั่นประเมินผลลัพธ์และทดลองส่งอีเมลล์ออกเพื่อเป็นการตรวจเช็คให้แน่ใจอีกครั้ง เนื่องจากการทำอีเมลล์คุณไม่สามารถกลับมาแก้ไขได้ รวมถึงการทำ A/B Testing (การเทสอีเมลล์ในรูปแบบที่ต่างกันเพื่อวัดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด) ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่นิยมทำเช่นกัน
Credit : blog.mailerlite.com
4. เว้นระยะห่างสักหน่อย!
จริงอยู่ที่ลูกค้ายังอยากได้ยินข่าวสารจากคุณ แต่การเว้นระยะห่างเสียบ้างก็เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึง ทำให้เขารู้สึกว่าเราไม่ได้คุกคามด้วยโปรโมชั่นหรืออีเมลล์ต่างๆทุกวัน ให้ขึ้นอยู่กับ Feedback ที่ได้รับ ถ้าสัญญาไว้ว่าจะส่งอีเมลล์ต่อ 1 ครั้ง/อาทิตย์ ก็ไม่ควรส่งมากกว่านั้น เท่านี้ก็จะทำให้รักษาความสัมพันธ์ได้นานเชียวล่ะ
5. อย่าไว้ใจใน Automation
การทำอีเมลล์ Automation คือ การทำอีเมลล์ของคุณให้ถูกส่งออกอัตโนมัติโดยเงื่อนไขต่างๆ ถือเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ควรมีในอีเมลล์มาร์เกตติ้ง แต่อย่างไรก็ตามให้นำมาใช้เป็นเพียงแค่เครื่องมือหนึ่งที่ช่วยในการจัดการการส่งอีเมลล์ให้ง่ายขึ้นแต่ไม่แทนที่การส่งอีเมลล์แบบ Campaign เช่นเดิม ซึ่ง เสถียรกว่า แน่นอน
6. แก้ไขปัญหา ‘Opt Out’
รู้หรือไม่ว่า 54% ของ Inbox ในอีเมลล์ทั่วไปคืออีเมลล์ส่งข่าวโปรโมชั่นสินค้ามากกว่าอีเมลล์สำคัญเสียอีก ไม่แปลกที่ผู้คนเลือกจะไม่รับอีเมลล์ที่เข้ามากวนใจและลบทิ้งออกจาก Inbox ตัวเองดังนั้น วิธีแก้ไขที่ดีที่สุดคือ มีทางเลือกให้ลูกค้าว่าอยากรับข่าวสารต่อหรือเลิกการติดตามหรือสามารถกะจำนวนครั้งในการรับข่าวสารได้ เช่น คุณอาจจะสร้างแบบฟอร์มขึ้นหน้าอีเมลล์เพื่อถามกลุ่มเป้าหมายของคุณว่าต้องการรับข่าวสารอยู่หรือไม่ ถ้าต้องการจะพอใจจำนวนกี่ครั้ง จะทำให้กลุ่มเป้าหมายของคุณรู้สึกว่ายังอยากมีส่วนร่วมกับแบรนด์นั้นๆอยู่
7.เตรียมพร้อมสำหรับแพลตฟอร์มที่เข้ากับมือถือ
อย่างที่ทราบกันดีว่า เริ่มเข้าสู่ยุคที่ User นั้นเปลี่ยนพฤติกรรมมาใช้ Mobile Device กันมากขึ้นสิ่งหนึ่งที่เราต้องปรับตามคือการที่เปลี่ยนรูปแบบอีเมลล์ให้เข้ากับ Mobile Device เปิดเมื่อไรก็สามารถอ่านได้ง่ายจากมือถือ ซึ่งโชคดีที่ปัจจุบันเราสามารถวัดผลลัพธ์ทาง Mobile ได้ง่ายกว่าเมื่อก่อน ดังนั้นจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่คุ้มค่าแก่การเปลี่ยนแปลงแน่นอน!
เห็นไหมล่ะว่า Email Channel ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสำหรับการสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้าของคุณได้ไม่ยาก แถมยังฟรีอีกนะ ลองศึกษาให้ดี รับรองว่าไม่มีผิดหวังแน่นอน :)
ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ forbes.com
สนใจทำ บทความ และ Advertorial ติดต่อได้ที่
http://www.infographicthailand.com/contact-form
หรือ คุณโรส (099-449-2654)
แสดงความคิดเห็น