การสร้างแบรนด์ในยุคนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากจะต้องอัพเดตเทรนด์ วิธีการ หรือเครื่องมือต่างๆ ให้ทันแล้ว ยังต้องทำความเข้าใจกับผู้บริโภคอย่างละเอียดลึกซึ้งถึงจะได้ก้าวขึ้นไปนั่งในใจผู้บริโภคได้อย่างมั่นใจ บทความนี้เราจะพูดถึงเหล่ากลุ่มคน Generations Z และ Y ที่มีอิทธิพลมากในยุคกลุ่มผู้บริโภคในปัจจุบัน  กลุ่มคน Generation Z หรือที่เราเรียกกันว่า iGeneration  คือกลุ่มคนที่มีอายุน้อยกว่า 20 ปี และ Generation Y มักจะถูกอ้างถึงในกลุ่ม Millennials ที่มีอายุระหว่าง 20-35 ปี ทั้งสองกลุ่มจัดได้ว่าเป็นกลุ่มที่ชอบเทคโนโลยี ชอบบันทึกเรื่องราวชีวิตของตัวเองผ่านโซเชียลมีเดียและชอบเชื่อมต่อกับเพื่อนๆ นอกเหนือจากนี้ งานวิจัยยังกล่าวอีกว่า เขาเหล่านี้ยังเป็นนักนวัตกรรมและมีแนวโน้มอยากเป็นนายตัวเองในอนาคต  นักการตลาดและบริษัทต่างๆกำลังให้ความสนใจในพฤติกรรมผู้บริโภคของกลุ่ม Gen Z โดยเฉพาะวัยรุ่นและเด็กกว่า 70 ล้านคนที่กำลังจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในไม่กี่ปี วันนี้เราได้หยิบยก 5 ข้อควรรู้ที่จะทำให้ชาว Infographic ได้รู้จักกับกลุ่ม Millenials และ Gen z กันมากขึ้น ไปดูกันเลยครับ

1. ชอบ Selfie ทุกที่ที่ไป

ในขณะที่การเซลฟี่นั้นได้รับความนิยมอย่างมากโดยมีความคิดริเริ่มมาจากกลุ่ม Millennials พวกเขาเหล่านี้มักจะถ่ายภาพทุก Shot ของชีวิต ดังนั้นกิจกรรมทางการตลาดที่ส่งเสริมให้เขาเหล่านั้นได้มีการแบ่งปันภาพ Selfie ของเขาสู่เพื่อนๆในวง Social นับได้ว่าเป็นไอเดียที่กลุ่ม Gen Y และ Gen Z หลงไหลทีเดียว กลุ่มคนใน Generation ใหม่นี้มีแนวโน้มการละทิ้งความสนใจกับแบรนด์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับตนได้อย่างรวดเร็ว พวกเขาต้องการที่จะเห็นแบรนด์มีการเข้าถึงเสมือนเพื่อนและในขณะเดียวกันยังสามารถสื่อสารและพูดคุยได้ง่ายด้วยเช่นกัน กล่าวคือคอนเทนต์ต้องเร็ว ต้องไว และเข้าใจง่าย

2.Hang out ทีไรเป็นต้อง Check-in

ปัจจุบันกลุ่ม Gen Y และ Gen Z ไปไหนมาไหนก็มักจะ Check-In สถานที่กันใน Facebook หมั่นอัพเดตว่าเขาเหล่านั้นทำอะไร อยู่ที่ไหน หรือแม้กระทั่งเรื่องต่างๆที่เขาสนใจ Blog ที่เขาแชร์ รีวิวที่เขาเชื่อถือ สิ่งต่างๆเหล่านี้ สามารถเก็บมาวางแผนการสร้างแบรนด์ให้โดนใจเหล่า Gen Y และ Gen Z ได้เลยนะ!

3.  โตมากับเทคโนโลยี แต่ยังไม่ละทิ้งเรื่องคุณค่าของวัฒนธรรมเดิม

อย่างที่รู้กันว่า Gen Y และ Gen Z เติบโตมากับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย สมาร์ทโฟนเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิต แต่อย่างไรก็ตาม แม้พฤติกรรมจะเปลี่ยนไป แต่ยังคงไม่ละทิ้งวัฒนธรรม คุณค่าหรือความเชื่อต่างๆ เขาเหล่านี้มักจะเปิดกว้างเรื่องความแตกต่าง และยังมีความสนใจเช่นเดียวกับคนรุ่นเก่า หรือเรียกได้ว่า แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไปเพียงใด เทคโนโลยีก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ไม่อาจเปลี่ยนมุมมองหรือสิ่งที่เขาคิดได้แม้แต่น้อย

4. สนใจคุณภาพของสินค้ามากกว่าความจงรักภักดีต่อแบรนด์

Gen Z ถูกเรียกว่าเป็น พ่อค้าปลีกที่ฝันร้าย นั่นเป็นเพราะว่าเขาเหล่านั้นละทิ้งความเป็น Brand Loyalty เขามักจะเปลี่ยนความสนใจหรือละทิ้งจากแบรนด์ต่อแบรนด์มากกว่าคนรุ่นก่อน เนื่องจากเขามีความสามารถในการค้นหาข้อมูล เลือกผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่ดีที่สุดโดยไม่เกี่ยงแบรนด์ เขามักจะมองหาเทรนด์ล่าสุดของผลิตภัณฑ์และบริการก่อน และค้นหาสินค้าที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ เช่น Wearable Tech อุปกรณ์ไอทีที่สามารถสวมใส่ได้ Wearable Tech  คืออุปกรณ์เทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่โดยมีฟังก์ชันต่างๆที่ เอื้อต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น เช่นการเก็บข้อมูลการทำกิจกรรมที่เราทำ การเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย หรือข้อมูลสภาพแวดล้อมของเราหรือสถานที่ที่เราไป เป็นต้น โดยจากเดิมที่เราสามารถทำทุกอย่างในอุปกรณ์สมาร์ทโฟน แต่ความสะดวกสบายนั้นก็ย่อลงมาเป็น Wearable Tech ที่สามารถใช้งานได้แบบเดิม แต่ยังสามารถสวมใส่เสมือนนาฬิกาไปได้ทุกที่

5. เป็นวัยที่ชอบการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่และสร้างความแตกต่างให้กับสังคม 

สิ่งหนึ่งที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างคนที่อายุน้อยที่สุดในสังคมกับคนรุ่นเก่าคือความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างในสังคม อย่างไรก็ตามคนรุ่นใหม่มีความใจเร็วที่จะเริ่มต้น มีการรับฟังการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเปิดความคิดที่แตกต่างเสมอ

กลุ่มคน Gen Z และ Gen Y มีการเติบโตท่ามกลางความโต้แย้งของสังคม เขาต้องการที่จะมีสิทธิ์ออกความเห็นสิ่งที่ไม่ชอบมาพากลของโลกนี้ และเขามีข้อมูลต่างๆที่พร้อมจะโต้เถียงได้เสมอ หนึ่งในนั้นคือข้อมูลจาก Internet และ Social Network ที่เขาเข้าถึงได้ตลอดเวลา นอกเหนือจากนี้การเติบโตของเหล่า Gen Z และ Gen Y ในโลกดิจิทัล เขามีความสามารถที่จะใช้ทรัพยากรข้อมูลต่างๆที่ล้ำสมัยมาปรับใช้ในชีวิต และการทำงานของเขาอีกด้วย ที่น่าสนใจไปกว่านั้น งานวิจัยมีการพูดถึง Gen Z อีกว่าเขาเหล่านี้มีความคิดที่จะหลายมาเป็นผู้ประกอบการและนักพัฒนาในรุ่นต่อไป เขาคาดหวังกับแบรนด์หรือสินค้าที่เขาซื้อจะสามารถสะท้อนความคิดของเขาได้   ดังนั้นแบรนด์ควรปรับวิธีการสื่อสารแบบเปิดพื้นที่ให้เขาเหล่านี้ได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นมากขึ้น

จะเห็นได้ว่าเหล่ากลุ่ม Gen Y และ Gen Z นั้นเป็นกลุ่มที่เราต้องให้ความสนใจและศึกษาพฤติกรรมอย่างดีเลยล่ะ เนื่องจากพวกเขาคือกลุ่มที่ใช้เทคโนโลยีมากที่สุด ดังนั้นไม่ว่าจะทำอะไรก็ขอให้โดนใจเหล่า Gen Y และ Gen Z เข้าไว้! หวังว่าชาว Infographic จะสามารถนำไปปรับใช้กับแบรนด์ตัวเองได้นะครับ

ที่มา : Entrepreneur.com

สนใจทำบทความ และ Advertorial ติดต่อได้ที่ 
http://www.infographicthailand.com/contact-form
หรือ คุณโรส 099-449-2654